ศัพท์บัญชี

รวมคำศัพท์บัญชีภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่ต้องรู้ สำหรับทั้งนักเรียนบัญชี เพื่อเตรียมสอบ CPA ผู้ประกอบเพื่ออ่านงบการเงิน นักลงทุนวิเคราะห์งบการเงินเพื่อลงทุนหุ้น

คำศัพท์บัญชีที่สำคัญอยู่ทั้งในงบดุล งบกำไรขาดทุน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ งบกระแสเงินสด หรือแม้กระทั้งหมายเหตุประกอบงบการเงิน บทความนี้รวม “ศัพท์บัญชี” ความหมายและลักษณะ ที่สำคัญ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจงบการเงินมากยิ่งขึ้น

งบดุล หรืองบแสดงฐานะทางการเงิน (Balance Sheet)

คือ งบแสดงรายการสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันเวลาใดเวลาหนึ่ง เป็นรายการที่กิจการมีอยู่ โดยสินทรัพย์จะต้องเท่ากับผลรวมระหว่างหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น (หรือส่วนของเจ้าของ) ตัวอย่างรายการบนงบดุล เช่น เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด, สินค้าคงเหลือ, ลูกหนี้การค้า, เจ้าหนี้การค้า, เงินกู้ระยะยาว, กำไรสะสม

งบกำไรขาดทุน (Income Statement)

คือ งบแสดง “ผลประกอบการ” ของบริษัท ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เช่น กำไรสุทธิตลอด 1 ปี 2566 งบกำไรขาดทุนจะแสดงผลรวมของรายได้หักค่าใช้จ่าย (เช่น ต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน และค่าใช้จ่ายถาษี) เพื่อแสดงยอด “กำไรสุทธิ” ซึ่งจะเท่ากับกำไรสุทธิบนงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ

งบกระแสเงินสด (Statement of Cash Flow)

คือ งบแสดงรายการที่มาจากเงินสดอย่างเดียว เพื่อให้ทราบการหมุนเวียนของบัญชีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดบนงบดุล งบกระแสเงินสดแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน และกระแสเงินสดจากการลงทุน

เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด (Cash and Cash equivalent)

คือ รายการบัญชีแสดงอยู่บนงบดุลหรืองบแสดงฐานุทางการเงิน ลักษณะของรายการนี้จะแสดงยอดเงินสดที่กิจการมี เงินฝากและสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง เช่น เงินฝากกระแสรายวัน และเงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำระยะยาวจะไม่อยู่ในรายการเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดนี้

ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า (Prepaid Account)

คือ รายการบัญชีบนงบดุล หรืองบแสดงฐานะทางการเงิน เป็นรายการสำหรับเงินที่กิจการจ่ายไปล่วงหน้าแต่ยังไม่ได้รับสินค้าและบริการ เช่น กิจการจ่ายค่าโดเมนและเว็บไซต์สำหรับ ปี 2567 และ 2568 วันที่ 1 มกราคม 2567 แต่การบริการครอบคลุมทั้งปี กิจการจำต้องบันทึกเพื่อทยอยรับรู้ค่าใช้จ่ายในแต่ละงวด

ค่าใช้จ่ายค้างจ่าง (Accrued Expense)

คือ รายการบัญชีที่กิจการอาจต้องจ่ายในอนาคตแต่ยังมีความไม่แน่นอนเมื่อเทียบกับเจ้าหนี้การค้า เช่น กิจการจ้างใช้ระบบ Server และได้ใช้บริการไปแล้ว 3 เดือน แต่ยังไม่ได้รับใบแจ้งหนี้ (Invoice) จากผู้ให้บริการทำให้เกิดความไม่แน่นอนของยอดเงิน ทำให้กิจการต้องตั้งรายการค่าใช้จ่ายค้างจ่ายเพื่อรับรู้ค่าใช้จ่ายรอรับใบแจ้งหนี้อีกครั้ง